โหมโรงเมอร์ซี่ไซด์ ดาร์บี้แมตช์

ขึ้นชื่อศึก "เมอร์ซี่ไซด์ ดาร์บี้แมตช์" ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากสื่อยกให้เป็นหนึ่งในเกมการแข่งขันที่ดุเดือดเร้าใจมากที่สุดบนเกาะอังกฤษ เกมวันเสาร์ที่ 7 กุมภาพันธ์เป็นนัดที่ 224 ระหว่างเจ้าถิ่น "ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน เปิดบ้านรอรับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล 

"บีบีซี สปอร์ต" สำนักข่าวชื่อดังได้รวบรวบประวัติศาสตร์และสถิติที่น่าสนใจรวมทั้งเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยต่างๆดังต่อไปนี้ 


ประวัติศาสตร์

ตลอดการเจอกันทั้งหมด 223 นัดนับตั้งแต่เจอกันครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม ปี 1894 ปรากฎว่า ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ทั้งสิ้น 89 นัด เอฟเวอร์ตัน ชนะ 66 ที่เหลืออีก 68 นัดจบด้วยผลเสมอ แต่หากนับเฉพาะในพรีเมียร์ลีกเจอกัน 45 เกม "หงส์แดง" เก็บชัย 19 ครั้ง เอฟเวอร์ตันชนะแค่ 9 แมตช์ ส่วนอีก 17 นัดจบด้วยการเสมอ


ดุเดือดที่สุด

หากเปรียบเป็นมวยต้องเรียกว่า "มวยถูกคู่" เพราะต่างฝ่ายต่างเล่นกันเต็มที่ใส่ไม่ยั้งดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจว่า "เมอร์ซี่ไซด์ ดาร์บี้แมตช์" เป็นเกมที่ดุเดือดมากที่สุดมีถึง 20 ใบแดงร้อนแรงยิ่งกว่าแดงเดือด ลิเวอร์พูล ปะทะ แมนฯยูไนเต็ด แจกใบแดง 15 ใบและมากกว่า เอฟเวอร์ตัน ห่ำหั่นกับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด มีใบแดง 13 ใบ

พิจารณาใบแดงทั้งหมด 20 ใบ "ท๊อฟฟีสีน้ำเงิน" กลายเป็นขาโหดถูกไล่ออกไปถึง 13 ครั้ง อีก 7 ครั้งที่เหลือเป็นของ "หงส์แดง" ส่วนนักเตะยุคปัจจุบันที่สะสมใบแดงมากที่สุดก็คือ สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด โดนแจก 2 ใบแดง


ลงเล่นมากสุด

แทบไม่ต้องเดา เจอร์ราร์ด เป็นนักเตะชุดปัจจุบันสัมผัสเกมดาร์บี้แมตช์มากที่สุดตั้งแต่ปี 1998 จนถึงปีนี้ 2015 จำนวนทั้งสิ้น 32 นัด ชนะ 19 เสมอ 11 แพ้ 2 ดังนั้นเกมวันเสาร์นี้จะเป็นแมตช์ที่ 33 มากสุดเป็นอันดับ 4 เทียบเท่าตำนานรุ่นพี่ อลัน แฮนเซ่น และตามหลังแค่เกมเดียวของอดีตผู้รักษาประตู บรูซ กร็อบเบล่า 34 นัด,เอียน รัช 36 นัด และ เนวิลล์ เซาธ์ธอลล์ ตำนานนายด่านเอฟเวอร์ตันครองสถิติสูงสุดตลอดกาล 41 เกม


ดาวยิงตลอดกาล

นับเฉพาะดาร์บี้แมตช์แล้ว เอียน รัช ตำนานเพชฌฆาตหน้าติดหนวดซึ่งนอกจากทำสถิติลงเล่นมากที่สุดเป็นอันดับ 2 จำนวน 36 นัดยังถูกโฉลกชอบยิงคู่แข่งร่วมเมืองเป็นพิเศษถึง 25 ประตูตามมาด้วย ดิซี่ ดีน อดีตสตาร์เอฟเวอร์ตัน 19 ประตูและเพื่อนร่วมทีมอีกคน อเล็กซ์ ยัง รั้งอันดับ 3 ซัลโว 12 ตุง หากนับเฉพาะแข้งปัจจุบันยิงได้เยอะสุดก็คือ เจอร์ราร์ด 10 ประตู


จอมสังหาร

ฝั่งเจ้าบ้าน เอฟเวอร์ตัน ต้องฝากความหวังพลังสังหารไปที่ โรเมลู ลูกากู ส่งบอลสู่ก้นตาข่ายฝั่งตรงข้ามมากกว่าใครในทีม 7 ประตู ส่วน "หงส์แดง" ร้อนแรงที่สุดก็คือ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง สังหารไปแล้ว 5 เม็ดเท่าๆกับผู้นำทีม เจอร์ราร์ด 


พลังสร้างสรรค์

สำหรับแข้งพลังสร้างสรรค์ของฝั่ง "ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน" ต้องยกให้ เลย์ตัน เบนส์ จ่ายถวายพานทองมากที่สุดถึง 8 แอสซิสต์ ขณะที่ "หงส์แดง" ส่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เข้าประกวดทำไป 6 แอสซิสต์ 


ทำลายล้าง

นอกจากการสร้างสรรค์พังประตูและแอสซิสต์แล้วแมตช์นี้ตัดสินที่ใครครองเกมมากกว่ากันมีชัยไปกว่าครึ่ง นั่นย่อมหมายความว่าภาระหนักตกไปอยู่กับผู้เล่นแดนกลางพยายามตัดเกมฝั่งตรงข้าม ดังนั้น โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ เทรนเนอร์เอฟเวอร์ตันคงต้องมอบมาย แกเร็ธ แบร์รี่ เมื่อดูจากสถิติเข้าแท็คเกิ้ลมากที่สุด 49 ครั้ง ขณะที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือตาหวานหวังพึ่ง "เฮนโด้" เสียบสกัดสูงถึง 55 ครั้ง 

Cr ssballthai